comosa by mohjai herbal textbook comosa เป็นสมุนไพร สำหรับสตรี ที่มีปัญหาภายในตั้งแต่เล็ก จนใหญ่ ปวดประจำเดือน กระบังลมหย่อน ช่องคลอดไม่กระชับ มีกลิ่น ตกขาว ขุ่นข้นเหม็นคาว ก้าวไปเป็นมะเร็งในที่สุด ผิงพรรณไม่ผ่องใส มีสิวมีฝ้า หน้าตกกระ ภูมิแพ้ เป็นประดง เลือดลมไม่ดี มีความดัน ไขมันในเลือด สุขภาพไม่สมบูรณ์ ไม่เคยอยู่ไฟ สมัยคลอดบุตร ราคากล่องละ 950 บาท มี 30 แคปซูล ถ้าซื้อห้ากล่องขึ้นไป ราคา 600 บาทเท่านั้น ส่งให้ฟรี ทั่วโลก ติดต่อได้ที่ 028107832 www.patsiri.com
วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554
healthcaresiri: แก่มาหายาสมุนไพร
healthcaresiri: แก่มาหายาสมุนไพร: "ตามเวลา เหตุการณ์ที่ผ่านมา โรงพยบาล คนมารักษาแน่นโรงพยบาล เสียทั้ง งาน เสียทั้งเงินตรา ต้องมาโรงพยบาลใช้เวลาเป็นวันๆ กว่างานการรักษา เสียเง..."
แก่มาหายาสมุนไพร
ตามเวลา เหตุการณ์ที่ผ่านมา โรงพยบาล คนมารักษาแน่นโรงพยบาล เสียทั้ง งาน เสียทั้งเงินตรา ต้องมาโรงพยบาลใช้เวลาเป็นวันๆ กว่างานการรักษา เสียเงินตราต้องซื้อมาจากต่างประเทศ แต่ทางเลือกปัจจุบันนี้ ไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาล รอนานเป็นวัน เพียง ใช้สมุนไพร เป็นต้นไม้ใบหญ้า ราคาถูก
ถึงเวลา ที่แพทย์แผนทางเลือก โดยมีกระทรวงสาธารณะสุข เปนผู้รับผิดชอบ ยอมรับ การรักษาด้วยสมุนไพร ตามโรงพยาบาล เช่นที่ โรงพยาบาล อภัยภูเบศ รพ ของรัฐประจำจังหวัดปราจีนบุรี
จะเห็นได้ว่า การรักษาพยาบาล บ้านเรา มีทางเลือกที่จะใช้สมุนไพรตามแผผผนโบราณ มีมานาน ตั้งแต่ สมัย พุทธกาล ผ่านมา ถึง สมัย สุโขทัย อยุทธยา มาจนถึงเมื่อ 60-70 ปีก่อนนี้ คนไทยก็ใช้สมุนไพรรักษาโรคมาตลอด นอกเสี่ยจากต้องว่างเเว้นไว้ มาหลายปี บัดนี้ก็มีนิมิตรหมายดีที่รัฐ ส่งเสริมให้สมุนไพรใช้เป็น การรักษาทางเลือก ซึ่งเป็นการประหยัดเงินตราของประเทศได้มากมาย เพราะสมุนไพรไทยเรา มีต้นไม้ใบหญ้า มากมายที่ใช้เป็นสมุนไพร ตามลำดับดังต่อไปนี้
แพทย์แผนโบราณได้เคยรับหน้าที่ดูแลสุขภาพของคนไทยมาตั้งแต่นมนานด้วยความ สำเร็จอย่างดี ทำให้ชาวไทยมีสุขภาพดีและสามารถยืนหยัดรักษาเอกราชของชาติมาจนทุกวันนี้ แต่ในเวลานี้การแพทย์แผนปัจจุบันได้เข้ามาแทนที่ ทำให้การแพทย์ของไทยตกต่ำและถูกทอดทิ้งมาเป็นเวลาหลายสิบปี วิชาแพทย์ไทยอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมอย่างยิ่ง แพทย์เก่ง ๆ หาตัวไม่ค่อยได้ ส่วนมากของผู้ที่อ้าวว่าเป็น “แพทย์” นั้นแท้จริงเป็นเพียงผู้ทำยาขาย คนไข้ไม่สบายมีอาการอย่างไรก็จ่ายยาไปให้สำหรับอาการอย่างนั้น ไม่ได้มีการตรวจร่างกายวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษาตามแบบฉบับของแพทย์ การอบรมแพทย์ใหม่ก็ไม่มีมาตรฐาน ใครจบ ป.๔ ก็เรียนได้ ลองเปรียบดูกับนักศึกษาแพทย์ทางแผนปัจจุบันจะเห็นว่าไกลกันอย่างฟ้ากับดิน จริง ๆ นอกจากนั้นครูผู้สอนก็ขาดคุณสมบัติด้านประสบการณ์ เพราะสถานศึกษาไม่มีโรงพยาบาลประกอบ ตำรับตำราก็มีน้อยมาก เปรียบกับแพทย์แผนเดิมในประเทศอื่น เช่น จีน อินเดีย ของเราอยู่ในระดับต่ำกว่าเขามากในทุก ๆ ทางวิชาแพทย์ไทยเป็นสมบัติมีค่าของชาติ แม้ในปัจจุบันก็ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากนิยมและต้องอาศัยแพทย์แผนโบราณ ข้อดีบางประการของการแพทย์แผนโบราณคือ ค่าใช้จ่ายถูก ใช้ยาสมุนไพรซึ่งมีอยู่ในประเทศ ไม่ต้องเสียเงินสั่งมาจากนอก แม้ในภาวะสงครามประเทศจะถูกปิดล้อม ก็ยังมียาใช้เอง ถ้าในกองทัพมีแพทย์แผนโบราณอยู่ เวลาทหารอยู่ในที่คับขัน ก็อาจหายาในป่าช่วยตัวเองได้ ประเทศเพื่อนบ้านของเราหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน อินเดีย และศรีลังกา ได้ส่งเสริมการแพทย์แผนเดิมของเขาให้ทันสมัยและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่การ แพทย์และการสาธารณสุข ในประเทศจีนและอินเดียมีการบังคับให้นักศึกษาแพทย์แผนปัจจุบันต้องใช้เวลา ส่วนหนึ่งเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณ และนักศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณก็ต้องเรียนวิชาแพทย์แผนปัจจุบันบ้าง ทำให้แพทย์ทั้งสองพวก “พูดกันรู้เรื่อง” และสามารถร่วมมือกันทำให้การสาธารณสุขของประเทศก้าวหน้า และประชาชนได้รับบริการแพทย์ที่ดียิ่งขึ้น ในทั้งสองประเทศนี้มีการ “แบ่งส่วนงาน” กันเป็นฝ่ายแผนโบราณและฝ่ายแผนปัจจุบัน ประชาชนเลือกใช้บริการได้ตามใจชอบ รัฐบาลก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะแพทย์แผนโบราณเรียกร้องค่าจ้างต่ำ และใช้ยาสมุนไพรซึ่งไม่ต้องสั่งเข้ามาจากนอก ประเทศไทยเสียเงินค่ายาต่างประเทศถึงปีละกว่าหมื่นล้านบาท ถ้าประหยัดได้เพียง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ยังเป็นเงินถึงพันล้านบาท
พ่อจ๋าย เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่มีตำรับยาศึกษามาตอนต้นสมัย กรุงรัตนโกสินธิ์ ได้สืบทอดตำรับยาดีๆทิ้งไว้ จนได้ใช้ยาต้นตำรับ ระงับ บำบัดโรคได้ จากรายละเอียด ที่ www.patsiri.com
ถึงเวลา ที่แพทย์แผนทางเลือก โดยมีกระทรวงสาธารณะสุข เปนผู้รับผิดชอบ ยอมรับ การรักษาด้วยสมุนไพร ตามโรงพยาบาล เช่นที่ โรงพยาบาล อภัยภูเบศ รพ ของรัฐประจำจังหวัดปราจีนบุรี
จะเห็นได้ว่า การรักษาพยาบาล บ้านเรา มีทางเลือกที่จะใช้สมุนไพรตามแผผผนโบราณ มีมานาน ตั้งแต่ สมัย พุทธกาล ผ่านมา ถึง สมัย สุโขทัย อยุทธยา มาจนถึงเมื่อ 60-70 ปีก่อนนี้ คนไทยก็ใช้สมุนไพรรักษาโรคมาตลอด นอกเสี่ยจากต้องว่างเเว้นไว้ มาหลายปี บัดนี้ก็มีนิมิตรหมายดีที่รัฐ ส่งเสริมให้สมุนไพรใช้เป็น การรักษาทางเลือก ซึ่งเป็นการประหยัดเงินตราของประเทศได้มากมาย เพราะสมุนไพรไทยเรา มีต้นไม้ใบหญ้า มากมายที่ใช้เป็นสมุนไพร ตามลำดับดังต่อไปนี้
แพทย์แผนโบราณได้เคยรับหน้าที่ดูแลสุขภาพของคนไทยมาตั้งแต่นมนานด้วยความ สำเร็จอย่างดี ทำให้ชาวไทยมีสุขภาพดีและสามารถยืนหยัดรักษาเอกราชของชาติมาจนทุกวันนี้ แต่ในเวลานี้การแพทย์แผนปัจจุบันได้เข้ามาแทนที่ ทำให้การแพทย์ของไทยตกต่ำและถูกทอดทิ้งมาเป็นเวลาหลายสิบปี วิชาแพทย์ไทยอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมอย่างยิ่ง แพทย์เก่ง ๆ หาตัวไม่ค่อยได้ ส่วนมากของผู้ที่อ้าวว่าเป็น “แพทย์” นั้นแท้จริงเป็นเพียงผู้ทำยาขาย คนไข้ไม่สบายมีอาการอย่างไรก็จ่ายยาไปให้สำหรับอาการอย่างนั้น ไม่ได้มีการตรวจร่างกายวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษาตามแบบฉบับของแพทย์ การอบรมแพทย์ใหม่ก็ไม่มีมาตรฐาน ใครจบ ป.๔ ก็เรียนได้ ลองเปรียบดูกับนักศึกษาแพทย์ทางแผนปัจจุบันจะเห็นว่าไกลกันอย่างฟ้ากับดิน จริง ๆ นอกจากนั้นครูผู้สอนก็ขาดคุณสมบัติด้านประสบการณ์ เพราะสถานศึกษาไม่มีโรงพยาบาลประกอบ ตำรับตำราก็มีน้อยมาก เปรียบกับแพทย์แผนเดิมในประเทศอื่น เช่น จีน อินเดีย ของเราอยู่ในระดับต่ำกว่าเขามากในทุก ๆ ทางวิชาแพทย์ไทยเป็นสมบัติมีค่าของชาติ แม้ในปัจจุบันก็ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากนิยมและต้องอาศัยแพทย์แผนโบราณ ข้อดีบางประการของการแพทย์แผนโบราณคือ ค่าใช้จ่ายถูก ใช้ยาสมุนไพรซึ่งมีอยู่ในประเทศ ไม่ต้องเสียเงินสั่งมาจากนอก แม้ในภาวะสงครามประเทศจะถูกปิดล้อม ก็ยังมียาใช้เอง ถ้าในกองทัพมีแพทย์แผนโบราณอยู่ เวลาทหารอยู่ในที่คับขัน ก็อาจหายาในป่าช่วยตัวเองได้ ประเทศเพื่อนบ้านของเราหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน อินเดีย และศรีลังกา ได้ส่งเสริมการแพทย์แผนเดิมของเขาให้ทันสมัยและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่การ แพทย์และการสาธารณสุข ในประเทศจีนและอินเดียมีการบังคับให้นักศึกษาแพทย์แผนปัจจุบันต้องใช้เวลา ส่วนหนึ่งเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณ และนักศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณก็ต้องเรียนวิชาแพทย์แผนปัจจุบันบ้าง ทำให้แพทย์ทั้งสองพวก “พูดกันรู้เรื่อง” และสามารถร่วมมือกันทำให้การสาธารณสุขของประเทศก้าวหน้า และประชาชนได้รับบริการแพทย์ที่ดียิ่งขึ้น ในทั้งสองประเทศนี้มีการ “แบ่งส่วนงาน” กันเป็นฝ่ายแผนโบราณและฝ่ายแผนปัจจุบัน ประชาชนเลือกใช้บริการได้ตามใจชอบ รัฐบาลก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะแพทย์แผนโบราณเรียกร้องค่าจ้างต่ำ และใช้ยาสมุนไพรซึ่งไม่ต้องสั่งเข้ามาจากนอก ประเทศไทยเสียเงินค่ายาต่างประเทศถึงปีละกว่าหมื่นล้านบาท ถ้าประหยัดได้เพียง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ยังเป็นเงินถึงพันล้านบาท
พ่อจ๋าย เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่มีตำรับยาศึกษามาตอนต้นสมัย กรุงรัตนโกสินธิ์ ได้สืบทอดตำรับยาดีๆทิ้งไว้ จนได้ใช้ยาต้นตำรับ ระงับ บำบัดโรคได้ จากรายละเอียด ที่ www.patsiri.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)